มือใหม่ต้องรู้ การปลูกโรงเรือนแคคตัส

แคคตัสอีกพืชที่นิยมปลูกกันภายในประเทศไทยเนื่องจากรูปลักษณ์ของน้องน่ารัก สสวยต้นเล็กบางคนชอบจนปลูกกันแบบโรงเรือน จิงๆแล้วน้องก็ต้องมีทริคในการดูแลเหมือนกันนะ วันนี้เรามาพูดถึงการดูแลต้นแคคตัลในแต่ละฤดูกันดีกว่าค่ะ

แคคตัสมีต้นกำเนิดมาจากทะเลทราย เติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อน และแคคตัสไม่ค่อยชื่นชอบน้ำซักเท่าไหร่ ฤดูฝนจึงถือเป็นฤดูที่เหล่านักเลี้ยงแคคตัสต้องให้ความใส่ใจต่อแคคตัสเป็นพิเศษ สำหรับสาวกแคคตัส อาจจะมีความกังวลว่าแคคตัสไม่ชอบน้ำ ในฤดูฝนส่วนสำคัญหลักๆคือสถานที่เลี้ยง แต่ละสถานที่ล้วนมีผลต่อการดูแล การให้น้ำที่แตกต่างกัน

โดยในช่วงฤดูฝนให้ลดปริมาณน้ำ ความชื้นค่อนข้างเยอะ ทำให้ดินแห้งช้ากว่าฤดูอื่นๆ ทำให้แคคตัสเกิดโรคเน่าง่าย ต้องหาวิธีลดความชื้นภายในโรงเรือนแคคตัส

ในฤดูฝนนี้แคคตัสอาจโดนน้ำฝนได้ นอกจากการลดปริมาณการให้น้ำและเพิ่มระยะห่างในการรดน้ำแล้ว สิ่งที่ต้องสังเกตเป็นหลักเลยคือการแห้งของหน้าดินและวัสดุปลูกช่วงฤดูนี้หากพบว่าหน้าดินหรือวัสดุปลูกยังมีความชื้นอยู่ สามารถเว้นระยะห่างการให้น้ำไปได้ยาวๆ เลย

ผลเสียและสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังในช่วงฤดูฝน คือ เกิดความชื้นที่สะสมในดินและอากาศ ภูมิต้านทานของต้นไม้ต่ำลง ทำให้แคคตัสของเรามีโอกาสเกิดโรคและแมลงศัตรูพืชเพิ่มมากขึ้น อีกเรื่องสำคัญสำหรับการเลี้ยงแคคตัสฤดูฝน คือ ไม่ควรเปลี่ยนกระถางในช่วงนี้ เพราะจะเสี่ยงต่อการเน่า

สำหรับสายพันธุ์แคคตัสที่ต้องหมั่นสังเกตและดูแลเป็นพิเศษในช่วงฤดูฝน คือ แมมมิลลาเรีย เพราะว่าน้องไม่ชอบความชื้นจึงทำให้น้องเสียว่าจะตุยได้

ในฤดูหนาวนี้เป็นฤดูที่เลี้ยงแคคตัสได้ง่ายที่สุด เป็นฤดูที่อากาศดี แสงแดดดีเหมาะกับการเจริญเติบโตของต้นแคคตัส ไม่จำเป็นต้องให้น้ำมาก แคคตัสบางสายพันธุ์ที่ปลูกในต่างประเทศจะหยุดการเจริญเติบโตในหน้าหนาว แต่ภายในประเทศไทย ไม่ได้มีความหนาวจนทำให้แคคคตัสหยุดการเจริญเติบโตได้

แต่สิ่งที่ต้องระวัง คือความแตกต่างของอุณห๓ุมิภายในช่วงกลางวันและกลางคืน เจ้าแคคตัสของเราอาจจะปรับตัวไม่ทัน เกิดการไหม้หรือ รากเน่าเสียได้ แม้อากาศจะเหมาะกับกาารเเลี้ยงแคคตัสแต่ก็จำเป็นที่จะต้องดูแลบ้าง

การให้น้ำในฤดูหนาวนี้ สามารถทำได้ปกติ คือการให้น้ำหน้าดินแห้ง หรือ 4-5 วัน แสงแดดก็จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโต บางวันในหน้าหนาวครึ้มแสงแดดไม่เพียงพอ เลยเกิดความชื้น ทำให้แคคตัสได้รับแสงแดดไม่เพียงพอ

จุดสังเกตว่าแสงแดดเพียงพอไหมให้สังเกตุที่หนามว่ามีการหดเล็กลงรึป่าว โดยเฉพาะแคคตัสที่มีลักษณะหนามขนาดใหญ่

ปรับเปลี่ยนสถานที่ปลูกไปในที่ที่แสงแดดส่องถึงอย่างเพียงพอต่อวัน หรือลดการพรางแสงลงโดยเอาผ้าสแลนออกชั่วคราวในช่วงนี้ก่อนในช่วงฤดูหนาวจะเป็นช่วงที่แคคตัสสกุล แมมมิลลาเรีย (Mammillaria) เจริญเติบโตได้ดีและให้ดอกจำนวนมาก เป็นช่วงที่แมมมิลลาเรียสวยงามที่สุด

แคคตัสในฤดูร้อน เป็นฤดูที่ต้นแคคตัสชอบมากที่สุด การเลี้ยงแคคตัสที่ดีที่สุดคือการเลี้ยงแคตตัสให้คล้ายคลึงกับต้นนกำเนิดมากที่สุด แคคตัสต้นกำเนิดมาจากทะเลทราย ฤดูร้อนบ้านเราถือว่าใกล้เคึยงกับบ้านเกิดของน้องที่สุด แม้ว่าต้นแคคตัสจะชื้นชอบแสงแดดดมากเพียงใด แต่ไม่ใช่น้องต้องการแสงแดดจัดๆตลอดทั้งวัน การที่น้องถูกแสงแดดตรงๆเป็นเวลานาน อาจจะทำให้เกิดอาการไหม้ และกลายเป็นแผลได้ ควรพลางแสงแดดให้ได้ประมาณ 50%เพราะสาเหตุที่ทำให้น้องตุยส่วนใหญ่คือการได้รับแสงแดดเป็นเวลานานมากเกินไป

ในฤดูร้อนการรดน้ำสำคัญไม่แพ้ฤดูฝน ในฤดูนี้อาจจะต้องปรับการรดน้ำให้ถี่มากยิ่งขึ้น ควรที่จะลดน้ำแคคตัสในช่วงเช้า เพื่อลดปัญหารากเน่า ไม่แนะนำให้รดน้ำน้องในช่วงเวลาตอนกลางคืน

แคคตัสที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษในฤดูนี้ คือยิมโนคาไลเซียมด่าง เสน่ห์ความสวยงามของยิมโนคาไลเซียมจะอยู่ที่การได้รับแสงแดดที่เพียงพอและเหมาะสมจึงจะทำให้ยิมโนคาไลเซียมมีสีสันที่จัดจ้าน คมชัด แต่ถ้าหากถูกแดดเผาจะหมด ความสวยงามจะหมดลงทันที

แม้การการปลูกและดูแลเคคตัสจะมีการปรับไปตามคุณภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล แต่หากมีความเข้าใจในธรรมชาติของแคคตัส และมีการดูแลที่เหมาะสม การเลี้ยงแคคตัสให้รอดเเละสวยงามก็ไม่ยากอีกต่อไป

ขอบคุณข้อมูล : https://www.livingpop.com

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *