ความชื้นกับการเลี้ยงงู

สัตว์เลี้ยงที่มาแรงในช่วงนี้อีกหนึ่งชนิดก็คงหนีไม่พ้นการเลี้ยงงู บางคนคนอาจจะกลัวหรือไม่ทราบว่างูนั้นก็เป็นสัตว์เลี้ยงได้นะ หลายคนติดภาพว่างูคือสัตว์อันตราย แต่น้องงูนั้นมีหลายสายพันธุ์บางสายพันธุ์ไม่ดุร้ายเป็นสายตะมุตะมิ บางคนก็เลี้ยงงูที่มีพิษแต่ต้องศึกษาข้อมูลน้องจึงทำให้การเลี้ยงงู เป็นที่นิยม

วันนี้ทางบริษัท MD มีเทคนิคหรือความรู้เล็กๆน้อยๆสำหรับการเลี้ยงน้องงู มาบอกต่อกันค่ะ

ในช่วงหน้าหนาวที่กำลังมาถึง หรือฝนตกอากาศเย็นๆ อากาศชื้นเป็นส่วนมากเป็นอากาศที่่น้องูไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เราจะมาบอกถึงวิธีการรับมือกันค่ะ

ควบคุมอุณหภูมิ

อุณหภูมิที่เหมาะสมกับน้องงูอยู่ที่ช่วง 28-33 องศา แต่ถ้าอุณหภูมิต่ำเพียงไม่กี่วันในช่วงหน้าหนาวอาจจะไม่ส่งผลอะไรต่อน้องงูเท่าไหร่ เนื่องจากพอช่วงเวลากลางวันอากาศอาจจะอุ่นขึ้นบ้าง

วิธีการเพิ่มความอบอุ่นให้กับน้องงู

1. คลุมผ้า

เป็นวิธีชั่วคราวเหมาะกับบางบ้านบางพื้นที่ ที่อากาศไม่ค่อยเย็น

– เอาผ้าอุ่นๆ หรือผ้าห่มบางๆคลุมไว้กับชั้นของงู

– หากเลี้ยงงูในกล่อง นำผ้ามารองพื้นก่อน เพื่อไม่ให้กล่องสัมผัสกับพื้นโดยตรงไม่ให้น้องหนาว

วิธีการคลุมผ้านี้แนะนำให้ทำแค่กลางคืนพอนะคะ ไม่แนะนำให้คลุมนานเกินไป

2. การกกไฟ

ในส่วนนี้ถือว่าเป็นส่วนสำคัญ ใชช่วงที่งูป่วย หรือเวลาที่อากาศหนาว ส่วนใหญ่จะใช้วิธีการกกไฟเป็นส่วนใหญ่ แนะนำให้ใช้ไฟ UVA-UVB หรือจะเสิร์ชหาว่าหลอดไฟสัตว์ได้เลยค่ะ แต่!!! ข้อห้าม ห้ามใช้โคมไฟบ้านเด็ดขาด เพราะแสงของโคมไฟบ้านจะไปรบกวนน้องงูนะคะ

เวลาส่องไฟส่องไฟแค่มุมใดมุงนึงก็พอเพราะจะต้องหาที่หลบร้อนไว้ให้กับน้องงู

3. ควรวางกล่องเลี้ยงงูไว้ให้ห่างจากหน้าต่างหรือช่องลมกันไม่ให้ลมมาสัมผัสกับน้องโดยตรง

ความชื้นก็มีผลต่อน้องงูนะ

บางเวลาที่น้องเอาตัวไปแช่น้ำพฤติกรรมแปลกไป หรือน้องอยากเล่นน้ำแปลกๆ สาเหตุมาจาก ความชื้นที่ต่ำเกินไป เป็นอีกสาเหตุของการเลี้ยงงูในห้องแอร์เพราะความชื้นภายในห้องจะลดลง ความชื้นที่เหมาะสมในการเลี้ยงงูจะอยุ่ในช่วง 50-60%

วิธีการแก้ปัญหาให้ได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือการใช้เครื่องลดความชื้นเนื่องจากจะสามารถลดความชื้นได้ตลอดไม่ว่าจะช่วงไหนหรือไม่ว่าจะเวลาไหน

เทคนิคดีๆในการเลี้ยงน้องงู

1. รักษาระดับอุณหภูมิ

2. พิจารณาแสงสว่าง

3. รักษาความชื้นที่เหมาะสม

4. จัดหาวัสดุพิมพ์ที่ดี น้องงูจะต้องมีพื้นผิวที่ถูกต้องเพื่อที่จะอยู่ในบ้านได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย 

5. จัดเตรียมกล่องซ่อน

6. ต้องหาขนาดของเหยื่อให้พอดี กับน้องงูของตัวเอง หากเล็กหรือใหญ่เกินไปอาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมาได้

7. อย่าสัมผัสงูหลังจากให้อาหาร น้องงูต้องใช้เวลาอยู่คนเดียวและย่อยอาหารหลังจากกินเข้าไปแล้ว

8. นำอาหารที่ไม่ได้กินออกทุกครั้งหลังการให้อาหาร 

9. กินอาหารให้ตรงเวลา จะช่วยให้คุณสังเกตได้ว่างูของคุณมีความอยากอาหารเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่

10. การให้น้ำ น้องงูของคุณจะต้องมีที่สำหรับหาน้ำในกรงด้วย การให้น้ำจะทำให้งูของคุณผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับการแช่ตัวได้ดี

ขอบคุณข้อมุลจาก : https://www.blockdit.com

https://th.wukihow.com