คุณภาพอากาศส่งผลต่อการเป็นโรคภูมิเเพ้ ?
ประเทศไทยมีอากาศที่ร้อนชื้น ไม่ว่าจะฤดูไหนก็มีความชื้นสูงส่งผลต่อสุขภาพของคนเป็นภูมิเเพ้
ผิวหนังเเห้ง จมูกเกิดการระคายเคือง เจ็บคอ คันตา ผิดเกิดการหย่อนก่อนวัยอันควร ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดจากความชื้นภายในอากาศที่ไม่เหมาะสม และส่งผลต่อคนเป็นโรคภูมิเเพ้อย่างยิ่ง เมื่อความเข้มข้นของสารก่อภูมิเเพ้ในอากาศเพิ่มขึ้นเช่น ความชื้นสูง สปอร์เเชื้อรา เเละเชื้อราเพิ่มมากขึ้น
ความชื้นมากทำให้อาการ การเป็นภูมิเเพ้ของคุณเเย่ลงได้ ส่งผลต่อทางเดินหายใจ จมูก ลำคอ และปอด เมื่อความชื้นไม่อยู่ในระดับที่สมควรอาจทำให้ชั้นเมือกเคลือบปอดบางลงและเพิ่มความเสี่ยงต่อการอักเสบและติดเชื้อของทืางเดินหายใจได้
ความชื้นอาจจะส่งผลให้คนปกติไฃเกิดอาการเป็นหวัดได้ และอาจเกิดการติดเชื้อจากไวรัสได้เพราะเชื้อโรค ไวรัส เกิดการเจริญเติบโตได้ดีในสภาวะความชื้นในอากาศที่สูง
ความชื้นที่มากเกินไปอาจจะทำให้เกิดมลพิษทางอากาศเพิ่มมากขึ้น เช่นไรฝุ่นเเละเชื้อรา และผลกระทบจากระบบหายใจย้ำแย่ลง
ความชื้นที่เหมาะสม ความชื้นที่เหมาะสมที่สุดจะขึ้นอยู่กับความรู้สึกสบายของแต่ละบุคคลซึ่งแตกต่างกัน แต่รักษาระดับที่แนะนำในช่วง 40% – 60 %RH เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพ
แนวทางในการเเก้ไขปัญสุขภาพที่เกิดขึ้นจากความชื้นที่ตรงคือ “การมีเครื่องลดความชื้น” ที่สามารถควบคุมความชื้นให้อยู่ระดับที่เหมาะสมให้กับเราได้เลย ซึ่งปัจจุบัน เครื่องลดความชื้นมีฟังก์ชั่นการฟอกอากาศด้วยในเครื่องเดียว แก้ปัญหาด้ายคุณภาพอากาศในบ้านได้อย่างเต็มที่แน่นอน
รู้ได้อย่างไรว่าเราเป็นหวัดหรือเป็นภูมิเเพ้
อาการภูมิแพ้หรือการแพ้อากาศ อาการใกล้เคียงกับโรคหวัด จนแยกกันไม่ออก เราจึงมีคำแนะนำในการสังเกตอาการที่แตกต่างอย่างชัดเจน
อาการเป็นภูมิเเพ้อากาศ เมื่อสัมผัสสารก่อภูมิแพ้แล้วจะมีอาการ
- จามบ่อย มีอาการคัดจมูก
- น้ำมูกใส
- ไม่มีไข้
- ไม่มีการติดต่อ คือไม่มีการแพร่เชื้อ
- มีอาการคันคอ
- อาการเป็นๆ หายๆ
- มีระยะเวลา การเป็นนานมากกว่า 2 สัปดาห์ขึ้นไป
อาการ การป่วยจากไวรัสหรือหวัด
- มีน้ำมูกข้น โดยช่วงแรกน้ำมูกจะใสแล้วค่อยๆ ข้นขึ้น
- ตัวร้อน มีไข้
- ไม่มีอาการคันจมูก
- สามารถแพร่เชื้อได้ง่าย
- เจ็บคอ หรือ แสบคอ
- มีอาการเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ
- สัมผัสเชื้อโรคแล้วต้องใช้เวลาฟักตัวนานกว่าจะเกิดอาการ
- มีระยะเวลาการเป็น ประมาณ 3-10 วัน